หลังการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ อาร์เซนอล “เอมิ” ตัดสินใจแจ้งไปยัง มิเคล อาร์เตต้า อย่างตรงไปตรงมา กับสถานะของเขาว่า เขาต้องการย้ายทีม เพื่อโอกาสในการลงเล่นตัวจริง แต่เขาต้องการความชัดเจนจาก สโมสร ที่เขาอยู่ด้วยมานานกว่า 10 ปี ว่า พวกเขาวางสถานะใดให้กับเขา บนพื้นฐานที่ว่า มาร์ติเนซ ไม่เคยสงสัย อะไรในความสามารถของตนเองแม้แต่น้อย
“ผมไม่เคยคิดว่า อะไรมันจะสำคัญไปกว่าสิ่งที่ผมทำ ทุกคนจะจดจำปลายทางของเรื่องราว ไม่ใช่จุดเริ่มต้น ผู้คนไม่ค่อยใส่ใจมากนักหรอก ว่าผมเริ่มต้นอย่างไร แต่พวกเขาสนใจว่าผมจะจบอย่างไรมากกว่า”
อาร์เซนอล และ มิเคล อาร์เตต้า จำเป็น และทำงานอย่างมืออาชีพ ในการแจ้งกับ มารติเนซ ตามตรงว่า สำหรับพวกเขาแล้ว แบนด์ เลโน่ นายทวารดีกรีทีมชาติเยอรมัน คือหมายเลขหนึ่งของสโมสร และทำตามความต้องการของ มาร์ติเนซ ในการย้ายออกจากทีม เพื่อโอกาสในการเป็นมือหนึ่งของเขา
“17 ล้านปอนด์” คือค่าตัวของ มาร์ติเนซ ในการย้ายไปร่วมงานกับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ นายทวาร หลังการบาดเจ็บยาวของ ทอม ฮีตัน และการยืมตัว โฆเซ่ เรน่า ระยะสั้นในช่วงท้ายฤดูกาล จบลงด้วยการรอดตกชั้นแบบหวุดหวิดในช่วงท้ายฤดูกาล พร้อมกับการลงทุนครั้งใหญ่กับ มาร์ติเนซ
หากมองในแง่ของการลงทุน นับเป็นการลงทุนที่ “ราคาแพง” เพราะมาร์ติเนซ มีประสบการณ์ในเกม พรีเมียร์ ลีก เพียง 11 เกมแบบต่อเนื่องเป็นครั้งแรก แต่มันคือการลงทุนที่น่าเสียง สำหรับ ดีน สมิธ และทีมงาน สิงห์ผงาด”
“เขาเป็นหนึ่งใน นายทวาร ที่เราติดตามผลงานมาหลายเดือน เขาไม่ใช่แค่เป็นคนที่จะมาป้องกันประตูเท่านั้น แต่เขายังนำความเชื่อมั่น และความนิ่งมาสู่ทุกคนที่เหลือในทีม เช่นเดียวกับประสบการณ์ที่เขามี แม้จะไม่มากในพรีเมียร์ ลีก แต่ก็ไม่ได้น้อยกับการเป็น นายทวาร มากกว่า 10 ปี และเขาเพิ่งคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มากับอาร์เซนอล การอยากออกจากทีมของเขาคือ ความต้องการในการเป็นตัวจริง และนั่นคือสิ่งที่เรามองหา”
“ตอนนี้เขาคือมือหนึ่งของทีม และมันคือแรงกดดันสำหรับ ทอม ฮีตัน และ เจด สเตียร์ ที่ต้องทำผลงานให้ดี เพื่อโอกาสในการกลับมาลงสนามเช่นกัน”
มาร์ติเนซ ลงสนามให้กับ แอสตัน วิลล่า ไปแล้วทั้งหมด 21 เกม ในฤดูกาลนี้ และเป็นตัวจริงทั้งหมด และมีมากถึง 11 เกม ที่เขาทำคลีนชีต
“เกมแรกของผมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เกมนัดเปิดฤดูกาล) เป็นอะไรที่เซตภาพรวมทั้งหมดของฤดูกาลแรกของผม กับ แอสตัน วิลล่า ผมจบฤดูกาลกับ อาร์เซนอล ด้วยผลการแข่งขันที่ดี ดังนั้นการที่เริ่มต้นกับ แอสตัน วิลล่า เกมแรก แล้วจบด้วยชัยชนะ พร้อมกับการไม่เสียประตู และเซฟจุดโทษได้ด้วย สร้างความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าผมจะเล่นกับ อาร์เซนอล หรือว่า แอสตัน วิลล่า ผมก็ยังคงเป็น เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ คนเดิม”
สถิติที่ยอดเยี่ยมของเขา ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมมากมาย ทั้งจากแฟนบอล รวมถึงเหล่านายทวารด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ วอยเช็ค เชสนี่ อดีตนายทวารอาร์เซนอล ซึ่งเวลานี้ก้าวขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของ ยูเวนตุส เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
“ผมไม่ได้อยากให้ตัวเองเด่นอะไรทั้งนั้น ผมอยากที่จะทำงานของผมต่อไป ไม่อยากโดดเด่น แต่ผมอยากให้ กองหลังด้านหน้าของผมมั่นใจ และรู้สึกปลอดภัย เมื่อมีผมเฝ้าประตู”
แอสตัน วิลล่า มีเกมที่น่าประทับใจหลายต่อหลายเกมในฤดูกาล พวกเขาเอาชนะ อาร์เซนอล ทีมเก่าของ มาร์ติเนซ ได้ทั้งแบบ ไป-กลับ ในแบบไม่เสียประตู แต่ที่ช๊อควงการที่สุด คือเกมที่พวกเขาเปิดบ้าน เอาชนะ ลิเวอร์พูล 7-2 ยัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งแรกในฤดูกาลนี้ให้กับ แชมป์เก่า เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ พร้อมกับฟอร์มการเซฟ อันสุดยอดของ มาร์ติเนซ ที่ทำให้ “สิงห์ผงาด” ผงาดสมชื่อหลังจบเกม
ซานโดร ออร์ลันเดลลี่ หัวหน้าแมวมองของ อาร์เซนอล ชาวบราซิล คือผู้ค้นพบ มาร์ติเนซ สมัยยังเป็นวัยรุ่น โดยเห็น มาร์ติเนซ ลงเล่นในทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี ในทัวร์นาเมนต์หนึ่ง
“เขาน่าสนใจมากในเวลานั้น รูปร่าง และศักยภาพที่แสดงออกมา ผมคิดว่าเขาเหมาะกับ พรีเมียร์ ลีก แต่ที่ชอบที่สุด ในตอนนั้น คือการยืนตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการยืนบนเส้น หรือการตัดสินใจพุ่งออกมาเล่น เขาทำได้น่าสนใจ และนั่นทำให้เราเลือกเขามาร่วมงานด้วย และมันก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ กับสิ่งที่เขาแสดงออกมาให้เราได้เห็นว่า เขาคือ นายทวารชั้นยอดของลีกได้ รวมถึงกับทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่จดชื่อเขาไว้ในลิสต์นายทวารของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว”
ยังไม่ใครรู้แน่ว่า มาร์ติเนซ และ แอสตัน วิลล่า จะจบลงอย่างไร ในฤดูกาลนี้ แต่ถึงเวลานี้ มาร์ติเนซ ก็ทำงานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม และก็เหมือนที่เขาบอกไว้ตั้งแต่ต้น
“ตอนเริ่มไม่สำคัญเท่ากับตอนจบ” และเรื่องราวของ มาร์ติเนซ เพิ่งออกตัวมาได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจเสียเหลือเกิน
นายทวารที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดใน ฤดูกาล 2020-2021 นับจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2021
ปัจจุบัน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ลงเล่นในเกม พรีเมียร์ ลีก (อาร์เซนอล และ แอสตัน วิลล่า) ไปแล้วทั้งสิ้น 36 เกม เก็บคลีนชีตไปทั้งสิ้น 17 ครั้ง